ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีพระอริยสงฆ์มากมายที่สามารถปฏิบัติธรรมจนกระทั่งอัฐิกลายเป็น "พระธาตุ" และมีลักษณะแตกต่างกันมากมาย ซึ่งสามารถแยกออกได้เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1. พระสาวกสมัยพุทธกาลและสมัยโบราณ .......... โดยพระสาวกสมัยพุทธกาลนั้น คือ พระสาวกที่ดำรงขันธ์อยู่ในช่วงสมัยพุทธกาล จนกระทั่งถึงภายหลังพุทธกาลไม่นาน ส่วนพระสาวกสมัยโบราณ คือ พระสาวกที่ดำรงขันธ์ในช่วงภายหลังพุทธปรินิพพานจนถึงประมาณพุทธศตวรรษที่ 24 พระสาวกในกลุ่มนี้จึงมีเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ปรากฏนามและไม่ปรากฏนามในตำรา พระสาวกสมัยพุทธกาลที่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป เช่น พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร เป็นต้น และพระสาวกสมัยโบราณที่เป็นที่รู้จักกันดีโดยทั่วไป เช่น พระอุปคุต เป็นต้น
2. พระสาวกสมัยปัจจุบัน ......... พระสาวกสมัยปัจจุบันนั้น คือช่วงตั้งแต่ก่อน พ.ศ.2500 เล็กน้อย จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ซึ่งมีมากมายหลายองค์ และแต่ละองค์ก็มีพระธาตุลักษณะต่างๆมากมาย ทำให้ได้สามารถศึกษาลักษณะและวิธีการแปรเป็นพระธาตุจากส่วนต่างๆของร่างกาย ซึ่งนำไปเปรียบเทียบกับลักษณะการเกิดของพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุพระสาวกสมัยโบราณได้ ดังเช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่พรหมา หลวงปู่สิม หลวงปู่ขาว เป็นต้น
พระบรมสารีริกธาตุ เป็นปูชนียวัตถุที่ทรงไว้ด้วยคุณค่า หาได้ยาก ........ และยังเป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดในไตรภพที่มนุษย์และเทวดาพึงสักการะ การจะบูชาพระบรมสารีริกธาตุนั้นก่อนอื่นต้องชำระล้างร่างกาย ทำจิตใจ ให้สะอาดผ่องใส จัดหาดอกมะลิใส่ภาชนะบูชา ตั้งสักการะ ณ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ แล้วจุดธูปและเทียน ตั้งใจให้เป็นสมาธิ กราบ 3 ครั้ง แล้วจึงตั้งนะโม 3 จบ กล่าวคำบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
" อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ ธาตุโย อะหัง วันทามิ สัพพะโส "
สำหรับบ้านที่มีพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชาอยู่แล้วคงจะทราบดี เป็นที่น่าแปลกคือ ......... พระบรมสารีริกธาตุนั้น สามารถเพิ่ม หรือลดจำนวนได้เอง โดยสามารถเสด็จไปไหนมาไหนเองก็ได้ แม้ว่าจะเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทดีสักเท่าใดก็ตาม โดยเชื่อกันว่าหากไม่ดูแลรักษาเอาใจใส่ ประดิษฐานไว้ในที่ไม่สมควร หรือขาดการถวายความเคารพแล้ว พระบรมสารีริกธาตุอาจเสด็จหายจากสถานที่นั้นๆ ก็เป็นได้ โดยทางตรงกันข้าม หากได้รับการปฏิบัติบูชาดี ผู้สักการบูชา มีกาย วาจา ใจ สะอาดบริสุทธิ์ อยู่ในศีลธรรม พระบรมสารีริกธาตุก็อาจเพิ่มจำนวนได้เช่นกันค่ะ
และวันนี้แม่หมอก็มีคาถาหลวงของพ่อเกษม เขมโก ............ มาฝากเพื่อนๆ เป็นคาถานมัสการและรวบรวมพลังพระธาตุทั่วอนันตจักรวาล สวดเพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นพุทธบูชาเพื่อระลึกถึงองค์พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ดังนี้ค่ะ
คาถานมัสการและรวบรวมพลังพระธาตุทั่วอนันตจักรวาล
วันทามิ เจดิยัง สัพพัง สัพพัฎฐาเน สุปฏิษฐิตาสรีระธาตุงมหาโพธิง
พุทธรูปัง สักการัง สัทธา นาคะโลเก เทวโลเก ดาวติงเส พรหมโลเก ชมพูทีเป ลังกาทีเป
สรีระธาตุโย เกศาธาตุโย อรหันตาธาตุโย เจดิยัง คันธกุฎี จตุราศี ติสสหัสสะ ธัมมักขันธา
ปาทเจดิยัง นะระเทเวหิปูชิตา อะหังวันทามิ ฑูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น