เมื่อพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยพระองค์ได้บำเพ็ญสมาธิให้เกิดในพระทัยด้วยวิธีที่เรียกว่าเข้าฌาน คือทำจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน แล้วทรงบรรลุฌานก็คือปัญญา ความรู้แจ้ง .... หลังจากที่ทรงตรัสรู้ใหม่ๆ พระพุทธเจ้าทรงประทับเสวยวิมุตติสุข (ความสุขที่เกิดจากการหลุดพ้น) อยู่ตามสถานที่ต่างๆ
สัปดาห์แรก ....... พระองค์ประทับอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ ทรงใช้เวลาตอนกลางคืนพิจรณาปฏิจจสมุปบาท จากต้นลงมาถึงที่สุด และจากที่สุดย้อนลงไปถึงต้น กลับไปกลับมาอยู่ตลอดคืน ....... ในยามแรก เวลา4ทุ่ม หลังจากที่ทรงพิจรณาแล้ง ทรงเปล่งเสียงอุทานว่า " เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ผู้เพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นเขาย่อมหมดความสงสัย เพราะมาได้รู้ธรรมพร้อมทั้งเหตุ ".......... ในยามที่2 เวลาตี2 หลังจากพิจรณาแล้ว ทรงเปล่งอุทานว่า "เมื่อใดแล ธรรมทั้งหลาย ปรากฏแห่งพรามณ์ที่เพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นเขาย่อมหมดความสงสัย เพราะมาได้รู้ความสิ้นไปแห่งปัจจัยทั้งหลาย" ......... และในยามสุดท้าย เวลา6โมงเช้า หลังทรงพิจรณาแล้วทรงเปล่งเสียงอุทานว่า " เมื่อใดแลธรรมทั้งหลายปรากฏแก่พราหมณ์ที่เพียรเพ่งอยู่ เมื่อนั้นเขาย่อมกำจัดมาร และเสนามารได้สิ้นเหมือนพระอาทิตย์อุทัย(ทำลายความมืด) เกิดความสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า"
สัปดาห์ที่2...... ทรงออกจากโคนต้นโพธิ์ มาประทับยืนมองต้นโพธิ์และที่ประทับนั่งตรัสรู้ ........ แต่ก่อนที่จะประทับยืน พระองค์ทรงแสดงปาฏิหารย์เหาะขึ้นไปในอากาศ เนื่องจากเทวดาสงสัยว่าพระองค์ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าหรือยัง และแสดงยมกปาฏิหารย์ให้เทวดาทั้งหลายดู แล้วจึงเสด็จมายืนอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาที่ประทับยืนนั้นเรียกว่า "อนิมิสเจดีย์"
สัปดาห์ที่ที่3 ...... พระองค์ทรงเสด็จจงกรมอยู่บนที่จงกรมแก้ว ซึ่งอยู่ระหว่างที่ประทับนั่งกับที่ประทับยืน กว้างจากตะวันออกไปจรดตะวันตก ต่อมาสถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า "รตนจงกรมเจดีย์"
สัปดาห์ที่4 ......พระองค์ทรงเสด็จไปประทับบนเรือนแก้วที่เหล่าเทวดานิมิตถวาย อยู่ทางทิศตะวันตกของรตนจงกรมเจดีย์ ทรงพิจรณาปฏิจจสมุปบาทอยู่ตลอดทั้งสัปดาห์ ต่อมาสถานที่แห่งนั้นได้ชื่อว่า " รตนฆรเจดีย์"
สัปดาห์ที่5....... ทรงเสด็จไปประทับที่โคนต้นอชปาลนิโครธ(ต้นไทร) ซึ่งอยู่เลยไปทางทิศตะวันออกของต้นโพธิ์ ... ตามปกติคนเลี้ยงแพะ(อชปาล)ชอบมานั่งเล่นหลบแดดที่เงาต้นไทรแห่งนี้ ต้นไทรจึงได้ชื่อว่า อชปาลนิโครธ ..... ขณะประทับอยู่ที่นั่น มีพราหมณ์คนหนึ่งเข้ามาเฝ้าและชวนสนทนาด้วย พราหมณ์คนนี้ถือเอาสิ่งที่ตนเห็นแต่เช้าตรู่ว่าเป็นมงคล มีนิสัยถือตัว และมักโกรธ เวลาไม่พอใจใครมักส่งเสียง หุหุ ..... เขาได้ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเหตุที่ได้เป็นพราหมณ์ พระองค์ทรงเปล่งอุทานขึ้นมาว่า " ไม่มีกิเลสเป็นเหตุให้เปล่งเสียง หุหุ ไม่มีกิเลสดุจน้ำย้อม สำรวมตน จบเวทด้วยการเกิดมรรคญาน อยู่จบพรหมจรรย์ ไม่มีกิเลสเป็นเหตุให้ฟูใจ " หลังจากสนทนาแล้ว พราหมณ์นันก็ทูลลาไป
สัปดาห์ที่6...... ทรงเสด็จไปประทับที่โคนต้นมุจลินท์ (ต้นจิก) ซึ่งขณะนั้นมีฝนพรำติดต่อกันตลอดทั้งสัปดาห์ ที่ใกล้ต้นมุจลินท์มีสระโบกขรณี ซึ่งมีพญานาคตัวหนึ่งอาศัยอยู่มีฤทธิ์ เกรงว่าพระพุทธเจ้าจะหนาว จึงขึ้นมาจากสระโบกขรณี แล้วขดวนรอบพระองค์เป็นขนด7ชั้น พร้อมแผ่พังพานเหนือพระเศียร...... ครั้นผ่านสัปดาห์นั้นไป พญานาคเห็นว่าฝนหายแล้ว จึงคลายขนดแปลงร่างเป็นมาณพหนุ่มยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งประนมมือนมัสการด้วยความเคารพ .... พระพุทธเจ้าเห้นดังนั้น จึงทรงเปล่งเสียงอุทานว่า " ความสงัด เป็นความสุขสำหรับผู้ที่สันโดดได้เห็นธรรมอย่างแจ้งประจักษ์ ความไม่เบียดเบียนกันเป็นสุขในโลก การสำรวมระวังในสัตว์ทั้งหลายก็เป็นสุข ความปราศจากความกำหนัดเป็นสุขในโลก การล่วงพ้นกามทั้งหลายได้ก็เป็นสุข การกำจัดความถือตัวว่าเรามีเราเป็นเสียได้ เป็นความสุขยิ่ง " จากนั้นมาณพแปลงก็ทูลลาไป
สัปดาห์ที่7..... พบอุบาสกคู่แรก พระองค์ทรงเสด็จไปประทับที่โคนต้นราชายตนะ (ต้นเกด) ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของต้นโพธิ์ .... พระอินทร์ลงมาเฝ้าถวายผลสมอให้เสวยเป็นยาระบาย .... แล้วตอนสายของวันนั้นเองก็มีพ่อค้า2พี่น้อง คือตปุสสะ กับ ภัลลิกะ ซึ่งพากองเกวียน500เล่ม บรรทุกสินค้าจากอุกกลชนบทไปค้าขายตามเมืองต่างๆในแคว้นมคธได่ผ่านมาทางนั้น เทวดาที่เคยเป็นญาติกันมาแต่อดีตชาติได้บันดาลให้เกวียนหยุดลง แล้วปรากฏกายแจ้งข่าวเรื่องพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกให้ทราบ พร้อมทั้งแนะนำให้ถวายอาหารแด่พระองค์ ....... พ่อค้า2พี่น้องได้ทำตามที่เทวดาบอก ได้นำข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง เข้าไปถวาย ในครั้งแรกพระพุทธเจ้าไม่ทรงรับเพราะไม่มีบาตร ต่อมาเมื่อท้าวมหาราชทั้ง4 นำบาตรศิลามาถวายจึงทรงใช้บาตรนั้นรับอาหารมาเสวย ..... ก่อนออกเดินทางต่อไป พ่อค้า2พี่น้อง ได้ประกาศตัวนับถือพระพุทธเจ้าและพระธรรมเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต (ขณะนั้นยังไม่มีพระสงฆ์) และขอพระเกศาธาตของพระพุทธเจ้าไปบูชาด้วย .... พ่อค้า2พี่น้องจึงเป็นอุบาสกคู่แรกในพุทธศาสนา
สัปดาห์ที่8......... พระองค์ทรงเสด็จกลับไปประทับที่โคนต้นอชปาลนิโครธ ทรงพิจรณาเห็นว่า ธรรมที่พระองค์ตรัสรู้มานั้นลึกซึ้งยิ่งนักยากที่ใครจะรู้ตามได้ ...... ท้าวสหัมบดีพรหมลงมาจากเทวโลกแล้วทูลอาราธนาให้พระองค์แสดงธรรม พระพุทธเจ้าทรงเกิดพระมหากรุณาธิคุณต่อสัตว์โลก ทรงเห็นสัตว์โลกเป็นเหมือนดอกบัว กล่าวคือ ..... สัตว์โลกบางจำพวกสามารถรู้ตามได้เร็วเหมือนดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำ พอต้องแสงอาทิตย์ก็บาน ..... สัตว์โลกบางจำพวกสามารถรู้ตามได้ หากได้ฟังอธิบายขยายความเพิ่มอีกหน่อย เหมือนดอกบัวที่ขึ้นอยู่ปริ่มน้ำ วันรุ่งขึ้นก็จะโผล่และบานเมื่อต้องแสงอาทิตย์ ....... สัตว์โลกบางจำพวกสามารถรู้ตามได้แต่ต้องใช้เวลาสอนนาน เหมือนดอกบัวที่จะโผล่พ้นน้ำ แล้วบานในวันต่อๆไป ........ และสัตว์โลกบางจำพวกก็ไม่สามารถรับรู้ได้ เหมือนดอกบัวที่เพิ่งงอกซึ่งจะถูกปลาและเต่ากัดกินเป็นอาหาร ....... ครั้งทรงเห็นดังนี้แล้ว พระทัยก็น้อมไปในอันที่จะแสดงธรรมโปรดสัตว์โลก
ทักทาย
แม่หมอขอแนะนำตัวเองก่อนเลยนะคะ ก็เป็นผู้หญิงธรรมด๊าธรรมดาคนนึง อาจดูเหมือนเป็นสาวมั่นที่ลุ๊คดู เปรี้ยวไปบ้างเล็กน้อย ..... ส่วนใหญ่วันๆ ก็ทำงาน หาเงิน (แล้วก็อยากรวย) ว่างๆก็ใช้เงิน หาเงิน วนเวียนอยู่กับเงิน อยู่กับงาน อยู่กับครอบครัว ชีวิตหมดไปอย่างงี้แหละค่ะทุกๆวัน ..... แล้วมาวันนึงก็ให้รู้สึก เหนื่อยกับชีวิต บางครั้งก็คิดว่า เอ๊ะทำไมคนนั้นต้องทำกับเราอย่าง นี้ คนนี้ต้องทำกับเราอย่างนั้นด้วย รึทำไมน๊าถึงซวยอย่างนี้ และอื่นๆอีกมากมาย .....คราวนี้ก็มาลองคิดดู คิดไปคิดมาก็ให้รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ แต่คงเป็นโชคดีที่ตัวเองเป็นคนชอบอ่าน วันนึงก็เลยลองหยิบหนังสือแนว ธรรมะขึ้นมาอ่าน(กะอ่านเล่นๆ)... แล้วก็เริ่มเห็นจริงในบางเรื่อง ....แล้วก็เริ่มเอามาปรับใช้ในชีวิตจริง ..... สุดท้ายศรัทธาก็เกิดและชีวิตก็มีความสุขขึ้นตามลำดับ ......... แม่หมอคิดว่า คนเราเลือกที่จะมีความสุขได้นะคะ อยู่ที่เราจะเลือกรึเปล่า และกฎแห่งกรรมก็มีจริงค่ะอาจช้าไปบ้าง เร็วไปบ้าง แต่มีจริงแน่นอนค่ะ ..... ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปรัชญา เป็นศาสนาที่เน้นแนวคิด.... บางครั้งเราอาจคิดว่าห่างไกลกับชีวิตประจำ วันของเรา หรือ บางคนอาจคิดว่าวัยยังไม่ถึงยังไม่แก่ซะหน่อย ....แต่ไม่ลองไม่รู้ค่ะ แม่หมอเลยอยากชวนเพื่อนๆให้มาเริ่มศึกษาธรรมะไปพร้อมๆกับแม่หมอ เราจะเดินไปด้วยกันสู่เส้นทางสายธรรมเพื่อความสุขที่เราเลือกจะมีค่ะ
แม่หมอขอแนะนำตัวเองก่
วันเสาร์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น