ในตระกูลโกลิยวงศ์ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่เป็นทั้งญาติสนิทและคู่แข่งของตระกูลศากยะวงศ์ .... พระเจ้าสุปพุทธะ นอกจากจะมีพระโอรสคือราชกุมารเทวทัตต์แล้ว ยังมีราชธิดาอีก1พระองค์ นามยโสธรา เป็นหญิงที่มีความงามรูปร่างสวย มีเสน่ห์ และชื่อของนางมีความหมายว่าความงามของเธอทำให้ผู้พบเห็นเย็นใจ......
เมื่อยโสธราเจริญวัยได้16ปี พระราชบิดาได้จัดพิธีเลือกคู่สยุมพรให้แก่นางโดยเชิญ ชายหนุ่ม ราชา อนุราชา จากเมืองต่างๆให้เดินทางมาให้นางเลือก และเวลานั้นสิทธัตถะโคตมะซึ่งเจริญพรรษาได้16ปีเช่นกันก็ถูกพระเจ้าสุทโธทนะส่งตัวมาร่วมพิธี โดยเสด็จมาพร้อมนายม้าต้นที่ชื่อฉันนะ แม้จะทรงตั้งพระทัยเป็นโสดอยู่แต่ผู้เดียวก็ตาม......
เมื่อพิธีเริ่มขึ้นยโสธราได้แจ้งแก่พระราชบิดาว่าทรงขอเลือกเจ้าชายสิทธัตถะเป็นคู่ครอง .... แต่ราชาและอนุชาทั้งหลายที่มาประชุมอยู่ต่างร้องคัดค้านว่านางไม่ควรเลือกเอาตามความพอใจ ควรเลือกด้วยวิธีเป็นธรรม ที่ประชุมจึงตกลงให้มีการแข่งขันกีฬาของความเป็นกษัตริย์ คือยิงธนู....นายฉันนะผู้ซึ่งไม่เคยเห็นนายตนใช้เครื่องมือประหัตรประหารมาก่อน ได้เข้าไปกระซิบเจ้าชายว่า หากพระองค์ไม่สู้ ศากยะวงศ์จะเป็นที่ดูแคลนของคนทั้งหลายและพระองค์ควรกู้เกียรติยศของพระนางยโสธราไว้ ...... สิทธัตถะได้ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันในเงื่อนไขเป้าจะต้องไม่มีวิญญานครอง.... การประลองธนูจึงมีขึ้นในลานกว้าง สิทธัตถะโคตมะประลองเป็นคนสุดท้ายและได้รับชัยชนะเป็นเอก.....
พระราชพิธีอภิเษกสมรสจึงถูกจัดขึ้นอย่างมโหฬารระหว่างหน่อกษัตริย์เรียงพี่เรียงน้องทั้ง2นคร ..... ชีวิตของสิทธัตถะโคตมะจึงเป็นชีวิตของผู้ครองเรือน เสวยสุขตามโลกียวิสัยเป็นลำดับมา....และพระนางยโสธราก็ได้ประสูติพระโอรสให้แก่พระองค์ มีนามว่าพระราหุล อันแปลว่า บ่วง.....
เมื่อยโสธราเจริญวัยได้16ปี พระราชบิดาได้จัดพิธีเลือกคู่สยุมพรให้แก่นางโดยเชิญ ชายหนุ่ม ราชา อนุราชา จากเมืองต่างๆให้เดินทางมาให้นางเลือก และเวลานั้นสิทธัตถะโคตมะซึ่งเจริญพรรษาได้16ปีเช่นกันก็ถูกพระเจ้าสุทโธทนะส่งตัวมาร่วมพิธี โดยเสด็จมาพร้อมนายม้าต้นที่ชื่อฉันนะ แม้จะทรงตั้งพระทัยเป็นโสดอยู่แต่ผู้เดียวก็ตาม......
เมื่อพิธีเริ่มขึ้นยโสธราได้แจ้งแก่พระราชบิดาว่าทรงขอเลือกเจ้าชายสิทธัตถะเป็นคู่ครอง .... แต่ราชาและอนุชาทั้งหลายที่มาประชุมอยู่ต่างร้องคัดค้านว่านางไม่ควรเลือกเอาตามความพอใจ ควรเลือกด้วยวิธีเป็นธรรม ที่ประชุมจึงตกลงให้มีการแข่งขันกีฬาของความเป็นกษัตริย์ คือยิงธนู....นายฉันนะผู้ซึ่งไม่เคยเห็นนายตนใช้เครื่องมือประหัตรประหารมาก่อน ได้เข้าไปกระซิบเจ้าชายว่า หากพระองค์ไม่สู้ ศากยะวงศ์จะเป็นที่ดูแคลนของคนทั้งหลายและพระองค์ควรกู้เกียรติยศของพระนางยโสธราไว้ ...... สิทธัตถะได้ตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันในเงื่อนไขเป้าจะต้องไม่มีวิญญานครอง.... การประลองธนูจึงมีขึ้นในลานกว้าง สิทธัตถะโคตมะประลองเป็นคนสุดท้ายและได้รับชัยชนะเป็นเอก.....
พระราชพิธีอภิเษกสมรสจึงถูกจัดขึ้นอย่างมโหฬารระหว่างหน่อกษัตริย์เรียงพี่เรียงน้องทั้ง2นคร ..... ชีวิตของสิทธัตถะโคตมะจึงเป็นชีวิตของผู้ครองเรือน เสวยสุขตามโลกียวิสัยเป็นลำดับมา....และพระนางยโสธราก็ได้ประสูติพระโอรสให้แก่พระองค์ มีนามว่าพระราหุล อันแปลว่า บ่วง.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น