หลังจากเกริ่นนำมา3บท ให้เพื่อนๆพอเข้าใจความแตกต่างของการฝึกจิตธรรมดา และการฝึกสมาธิแนวพุทธศาสนาที่มุ่งเน้นที่สัมมาสมาธิ .... แม่หมอก็ยังพูดถึงถึงการเตรียมพร้อมก่อนการฝึกโดยการทำจิตให้เป็นกุศล ถือศีลและทำทาน เพื่อให้การฝึกสมาธิเรามีรากฐานที่มั่นคง รวมไปถึงเล่าให้เพื่อนฟังเกี่ยวกับนิวรณ์5 ที่เป็นอุปสรรคของการฝึกสมาธิด้วย.... มาวันนี้ เรียนรู้ธรรมะไปกับแม่หมอก็จะพาเพื่อนๆมาลองของจริงกันเลยนะคะ ...
การเจริญสมาธินั้นสามารถทำได้ ทั้งอริยาบท นั่ง ยืน เดิน หรือนอนก็ได้ค่ะ .. แต่ท่านอนอาจทำให้เราหลับได้ง่ายนะคะ.... สำหรับผู้เริ่มปฏิบัติแล้ว ท่านั่งดูเหมือนจะเป็นที่นิยมที่สุดโดยนั่งลงกับพื้นขัดสมาธิค่ะ .... ในกรณีที่เพื่อนๆมีปัญหาสุขภาพไม่สะดวกจะนั่งบนเก้าอี้ก็ได้ค่ะ .... เรามาดูรายละเอียดท่าการฝึกแต่ละท่ากันนิดนึงก่อนดีกว่าค่ะ
ท่ายืน ทำโดยยืนตัวตรง วางมือขวาทับมือซ้าย คว่ำมือทั้งสอง หลับตาหรือลืมตาสก็ได้แล้วจะสะดวกในการทำค่ะ แล้วเพ่งไปที่คำว่า พุทโธ จนจิตตั้งมั่นได้
ท่าเดิน หรือที่เรียกว่าเดินจงกรม เราจะกำหนดระยะทางที่เราจะเดินเองสั้นหรือยาวก็ได้ค่ะ และควรจะหาสถานที่และเวลาที่เหมาะสมนะคะ เพื่อไม่ให้มีสิ่งรบกวนจากรอบข้าง..... และไม่ควรเดินในที่ต่างระดับหรือขรุขระ ควรเป็นทางเรียบเสมอกันค่ะ........ จากนั้นให้ก็ให้เริ่มตั้งสติ ให้สำรวมทอดสายตาลงให้พอดี วางมือทั้งสองลงข้างหน้าทับกันเหมือนกับยืนและเริ่มต้นเดิน...... การเดินแต่ละก้าวก็ให้จิตตั้งมั่นอยู่กับคำบริกรรมว่า พุทโธ โดยเดินช้าๆ ไม่เร่งรีบ กำหนดรู้ในใจค่ะ
ท่านั่ง นั่งลงกับพื้น โดยนั่งขัดสมาธิ ตัวตรง วางหลังมือขวาบนฝ่ามือซ้าย แล้วเพ่งเอาจิตไปที่การบริกรรมคำว่า พุทโธ ท่องภาวนาไว้เป็นอารมณ์ให้กำหนดรู้อยู่ในใจเช่นกันค่ะ
ท่านอน ให้นอนตะแคงข้างขวา เอามือขวาวางรองศีรษะ ยืดมือซ้ายไปตามตัว นอนตรงๆค่ะ(เป็นท่าพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานค่ะ) ไม่นอนคว่ำ หรือนอนหงายนะคะ..... จากนั้นก็สำรวมสติตั้งมั่นด้วยการภาวนาคำว่า พุทโธ ให้ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์กำหนดรู้ในใจค่ะ
การเจริญสมาธิสามารถทำโดยการหลับตา หรือลืมตาก็ได้นะคะ ....ในระยะเริ่มต้น ส่วนใหญ่นิยมหลับตาค่ะ เพื่อที่จะไม่รับรู้การเคลื่อนไหวจากภายนอก แต่หากฝึกโดยวิธีเพ่งวัตถุอันนี้ต้องลืมตาค่ะ ..... การกำหนดอารมณ์ให้รู้ในใจหรือการตามรู้จิต เป็นการใช้อารมณ์มาเป็นเครื่องฝึกหัดกำหนดจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน ไม่ให้เลื่อนลอยไปหาสิ่งของวัตถุ หรือเรื่องราวอื่นๆ ..... กำหนดจิคให้แน่วแน่อยู่ที่คำว่าพุทโธ โดยอาจกำหนดจุดใดจุดหนึ่งในร่างกายให้เป็นจุดยึดก็ได้นะคะ เช่นปลายจมูก หว่างคิ้ว กลางหน้าอก หรือกลางช่องท้องค่ะ
ปกติแล้วถ้าก่อนนั่งสมาธิเราถ้าเราอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาดก็จะทำให้เราสดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนนะคะ และการสวดมนต์ก่อนนั่งก็จะทำให้จิตใจสงบดีค่ะและเป็นการเริ่มต้นด้วยการระลึกถึงพระพุทธคุณค่ะ .......จริงๆแล้ว เวลาที่เหมาะสมกับการฝึกสมาธิที่สุดจะได้แก่ เวลากลางคืน ก่อนนอนนะคะ เพราะเป็นเวลาที่เงียบสงบเหมาะแก่การนั่งสมาธิค่ะ ...... แต่ถ้าเพื่อนๆเวลาจำกัด หรือติดภาระกิจครอบครัว จะเลือกนั่งสมาธิกันตอนไหน เวลาไหนในแต่ละวันได้ทั้งนั้นค่ะ
เรามาเริ่มกันเลยนะคะ..... นั่งลงกับพื้นค่ะ ให้ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย วางมือหงายไว้บนหน้าตัก ตั้งตัวตรงมองทอดสายตาไปข้างหน้าประมาณ 2 ศอก แล้วหลับตา..... มีสติรู้ตัวอยู่เสมอ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก พร้อมกับระลึกถึงพระพุทธคุณเป็นอารมณ์ค่ะ...... ขณะหายใจเข้า ให้กำหนดว่า “พุท” ขณะหายใจออก ให้กำหนดว่า “โธ” กำหนดลมหายใจเข้าออกพร้อมกับกำหนดพระพุทธคุณควบคู่กันไปอย่างนี้ตลอดการนั่งนะคะ.......
ในระยะเริ่มแรกของการฝึกนั่งสมาธินั้น เพื่อนๆควรนั่งด้วยระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 10 – 15 นาทีต่อครั้งก่อนนะคะ ..... เมื่อร่างกายเกิดความเคยชินต่อการนั่งแล้ว ค่อยเพิ่มเวลาให้มากขึ้นตามลำดับค่ะ ...... เริ่มต้นใหม่ๆ เพื่อนๆอาจหานาฬิกาปลุกมาตั้งเวลา10หรือ15นาทีเป็นการกำหนดเวลานั่งในระยะแรกก้ได้นะคะ ..... และหลังจากนั่งสมาธิ เสร็จแล้ว ควรกราบพระรัตนตรัย 3 ครั้งก่อนลุกก็จะทำให้การนั่งสมาธิของเราสมบูรณ์แบบค่ะ
ไม่ยากเลยใช่มั๊ยคะ สำหรับการเริ่มต้นฝึกสมาธิเบื้องต้น ในเรียนรู้ธรรมะไปกับแม่หมอ ..... อันที่จริงก็เป็นการเริ่มฝึกจิตให้นิ่งในเบื้องต้นนั่นเองอะค่ะ ... ในความเป็นจริงแล้วการฝึกสมาธิในแนวสัมมาสมาธิ จะมีรายละเอียดมากมาย มีวิธีการหลากหลายรูปแบบ ..... ซึ่งถ้าเราค่อยๆฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถยกระดับขึ้นเป็นการฝึกกรรมฐาน ซึ่งมี2อย่างคือ สมถะกรรมฐาน(การฝึกจิตให้สงบเป็นสมาธิ) และวิปัสนากรรมฐาน(การฝึกจิตให้เกิดความรู้แจ้งตามความเป็นจริง) ค่ะ
นัดหน้าเรียนรู้ธรรมะไปกับแม่หมอจะมาคุยกับเพื่อนๆเรื่องธรรมะที่จะทำให้การฝึกสมาธิของเราประสบความสำเร็จค่ะ นั่นคือ อิทธบาท4 คอยติดตามให้ได้นะคะ ....
ทักทาย
แม่หมอขอแนะนำตัวเองก่อนเลยนะคะ ก็เป็นผู้หญิงธรรมด๊าธรรมดาคนนึง อาจดูเหมือนเป็นสาวมั่นที่ลุ๊คดู เปรี้ยวไปบ้างเล็กน้อย ..... ส่วนใหญ่วันๆ ก็ทำงาน หาเงิน (แล้วก็อยากรวย) ว่างๆก็ใช้เงิน หาเงิน วนเวียนอยู่กับเงิน อยู่กับงาน อยู่กับครอบครัว ชีวิตหมดไปอย่างงี้แหละค่ะทุกๆวัน ..... แล้วมาวันนึงก็ให้รู้สึก เหนื่อยกับชีวิต บางครั้งก็คิดว่า เอ๊ะทำไมคนนั้นต้องทำกับเราอย่าง นี้ คนนี้ต้องทำกับเราอย่างนั้นด้วย รึทำไมน๊าถึงซวยอย่างนี้ และอื่นๆอีกมากมาย .....คราวนี้ก็มาลองคิดดู คิดไปคิดมาก็ให้รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ แต่คงเป็นโชคดีที่ตัวเองเป็นคนชอบอ่าน วันนึงก็เลยลองหยิบหนังสือแนว ธรรมะขึ้นมาอ่าน(กะอ่านเล่นๆ)... แล้วก็เริ่มเห็นจริงในบางเรื่อง ....แล้วก็เริ่มเอามาปรับใช้ในชีวิตจริง ..... สุดท้ายศรัทธาก็เกิดและชีวิตก็มีความสุขขึ้นตามลำดับ ......... แม่หมอคิดว่า คนเราเลือกที่จะมีความสุขได้นะคะ อยู่ที่เราจะเลือกรึเปล่า และกฎแห่งกรรมก็มีจริงค่ะอาจช้าไปบ้าง เร็วไปบ้าง แต่มีจริงแน่นอนค่ะ ..... ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปรัชญา เป็นศาสนาที่เน้นแนวคิด.... บางครั้งเราอาจคิดว่าห่างไกลกับชีวิตประจำ วันของเรา หรือ บางคนอาจคิดว่าวัยยังไม่ถึงยังไม่แก่ซะหน่อย ....แต่ไม่ลองไม่รู้ค่ะ แม่หมอเลยอยากชวนเพื่อนๆให้มาเริ่มศึกษาธรรมะไปพร้อมๆกับแม่หมอ เราจะเดินไปด้วยกันสู่เส้นทางสายธรรมเพื่อความสุขที่เราเลือกจะมีค่ะ
แม่หมอขอแนะนำตัวเองก่
อยากทราบว่าทุกคนสามารถที่จะนั่งสมาธิได้ไหมค่ะ เพราะตั้งแต่เกิดยังไม่เคยนั่งเลยค่ะ
ตอบลบเอ๊ะ! พึ่งทราบว่าการนอนก็สามารถที่จะฝึกสมาธิได้เหมือนกัน แล้วเวลากำหนดพุธโธ เราต้องกำหนดเข้าออกอย่างไรครับ
ตอบลบนั่งได้ทุกคนค่ะ ในขั้นต้นเป็นการฝึกจิตให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่านค่ะ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ จะดีกับชีวิตประจำวันด้วยนะคะ จะเป็นคนที่มีสมาธิในการทำงาน หรือการเรียนมากขึ้น อยากให้ลองค่ะ
ตอบลบส่วนท่านอนสมาธิ เป็นท่าที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานค่ะ แต่ถ้าคนธรรมดาๆอย่างเราๆ ลองท่านี้มีหวังหลับค่ะ กำหนดลมหายใจเข้าพุท -ออกโธคะ กำหนดเพื่อให้เรามีสิ่งยึด จิตจะได้ไม่แกว่งค่ะ