พระเจ้าสุทโธทนะทรงมุ่งหมายให้องค์สิทธัตถะติดอยู่ในโลกียวิสัย .... จึงสั่งสถาปนิกหลวงสร้างที่ประทับให้โอรสอีก3หลัง สำหรับฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว โดยปราสาทฤดูหนาวมี9ชั้น ช่องประตูหน้าต่างปิดมิดชิดเพื่อป้องกันลมหนาว ปูลาดด้วยผ็าเนื้อดีที่ทำให้อบอุ่น ..... ปราสาทฤดูร้อนมี5ชั้น ตามฝาผนังมีช่องลม ประตูหน้าต่างใหญ่กว้าง ..... ขณะที่ปราสาทฤดูฝนมี7ชั้น พื้นที่ไม่แคบไม่กว้าง เหมาะสำหรับประทับในช่วงฤดูฝน ...... รอบๆที่ประทับตกแต่งให้มีสระน้ำ มีอุทยาน ไม้ดอกไม้ผล เท่าที่จะหาได้ในชมพูทวีปมาปลูกไว้ให้รื่นรมย์.....
นอกจากนั้นแล้วพระเจ้าสุทโธทนะยังรับสั่งให้อมาตย์ชื่ออุทายีจัดหาหญิงงาม สาวรุ่นมาบำรุงบำเรอพระโอรสในปราสาท3ฤดู........ แม้องค์สิทธธัตถะจะแสดงต่อนางเหล่านั้นด้วยความอ่อนโยน เมตตาตามความเหมาะสม แต่ก็หามีนางใดที่จะมัดใจเจ้าชายไว้ได้..... อุทายีจึงได้ทูลถามด้วยปราถนาจะให้เจ้าชายได้รับความสุขความรื่นเริง หากแต่พระองค์มิได้สนิทสนมกับหญิงงามเหล่านั้นเท่าที่ควร ....องค์สิทธัตถะจึงตอบว่า ความสวยงามของหญิงทั้งหลายหาเป็นความยั่งยืนไม่ ที่ใดไม่มีความจริง ที่ใดไม่มีความร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งทางธรรมชาติและวิญญาน ฉันจะไม่ยอมอยู่กับสิ่งนั้น.....วิญญานใดพ่ายแพ้แก่ความอยากความใคร่ วิญญานนั้นย่อมบอดแลเห็นแต่ความมืด.....
อุทายีจึงนำความไปกราบทูลพระเจ้าสุทโธทนะเมื่อทรงทราบว่าพระโอรสมีความคิดกระเจิงไปในทางที่พระองค์ไม่ปราถนา ก็ให้เกิดความตรอมพระทัยคิดไปไกลถึงการสิ้นสุดของราชวงศ์ ...... แต่พระองค์ก็ยังไม่ละความพยายามหาอุบายอื่นๆ เรียกมนตรีทั้งหลายมาหารือและพยายามหาหนทาง แต่ก็หามีผู้ใดสามารถกล่อมเจ้าชายให้ติดกับโลกียสุขได้.....
แม่หมอให้ความรู้มากเลยน่ะค่ะ สงสัียอย่างนี้ใกล้บวชได้แ้ล้วมั้ง (แซวเล่นน่ะค่ะ) ก็เป็นอะไรที่ให้ความรู้มากพอสมควรน่ะค่ะ จะติดตามไปเรื่อย ๆ ค่ะ
ตอบลบขอบคุณที่ติดตามค่ะ ดีใจที่มีคนอ่านอะค่ะ
ตอบลบ