บทสวดพาหุงมหากา เป็นพระคาถาแปดบท ที่ใช้สวดสรรเสริญชัยชนะแปดประการขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมนุษย์และอมนุษย์ ที่ได้มาด้วยพระพุทธธรรม มิได้มาด้วยอิทธิปาฏิหาริย์แต่อย่างใด..... โดยพระสงฆ์มักสวดต่อท้ายทำวัตรเช้า – เย็น เริ่มด้วย บทพาหุง ตามด้วยบทมหาการุณิโก รวมเรียกว่า พาหุงมหาการุณิโก หรือ พาหุงมหากา นั่นเองค่ะ
พาหุงมหากาฯ เป็นบทสวดที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าทรงสวดก่อนทำศึกสงคราม ซึ่งเป็นบทสวดมนต์ที่มีค่ามากที่สุด มีผลดีที่สุดนะคะ...... เพราะเป็นชัยชนะอย่างสูงสุดของพระบรมศาสดา จากพญาวัสดีมาร จากอาฬาวกะยักษ์ จากช้างนาฬาคีรี จากองคุลิมาล จากนางจิญมานวิกา จากสัจจะกะนิครนธ์ จากพญานันโทปนันทนาคราช และท่านท้าวผกาพรหม....... เป็นชัยชนะที่พระพุทธองค์ ทรงได้มา ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และด้วยอำนาจแห่งบารมีธรรมโดยแท้ค่ะ...... ผู้ใดได้สวดไว้เป็นประจำทุกวัน จะมีชัยชนะ มีความเจริญรุ่งเรือง ตลอดกาลนาน มีสติระลึกได้จะตายก็ไปสู่สุคติภูมินะคะ......และไม่ เพียงแต่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเท่านั้น ที่พบความมหัศจรรย์ของพบพาหุงมหากา แม้พระเจ้าตากสินมหาราช ก็ได้ทรงพบเช่นกัน โดยมีบันทึกโบราณบอกไว้ดังนี้ "เมื่อ พระเจ้าตากสินมหาราชตีเมืองจันทบุรีได้แล้วก็ทรงเล็งเห็นว่า สงครามกู้ชาติต่อจากนี้ไป จะต้องหนักหนาและยืดยาว จึงทรงโปรดเกล้าให้สร้างพระยอดธงแบบศรีอยุธยาขึ้น แล้วนิมนต์พระเถระทั้งหลาย มาสวดบทพาหุงมหากาบรรจุไว้ในองค์พระ และพระองค์ก็ทรงเจริญรอยตาม พระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้วยการเจริญพาหุงมหากา จึงบันดาลให้ทรงกู้ชาติสำเร็จ"ค่ะ
"พาหุงมหากา" หรือ "พุทธชัยมงคลคาถา" มีอยู่ทั้งหมด ๘ บท ความมุ่งหมายแตกต่างกันทั้งแปดบท ดังนี้คือ
บทที่ ๑ สำหรับเอาชนะศัตรูหมู่มาก เช่น ในการสู้รบ
บทที่ ๒ สำหรับเอาชนะใจคนที่กระด้างกระเดื่องเป็นปฏิปักษ์
บทที่ ๓ สำหรับเอาชนะสัตว์ร้ายหรือคู่ต่อสู้
บทที่ ๔ สำหรับเอาชนะโจร
บทที่ ๕ สำหรับเอาชนะการแกล้ง ใส่ร้ายกล่าวโทษหรือคดีความ
บทที่ ๖ สำหรับเอาชนะการโต้ตอบ
บทที่ ๗ สำหรับเอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย
บทที่ ๘ สำหรับเอาชนะทิฏฐิมานะของคน
บทสวดพาหุงมหากา
พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ค๎รีเมขะลังอุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
พญามารเนรมิตแขนตั้งพันถืออาวุธครบมือ ขี่ช้างครีเมขละ พร้อมด้วยเสนามารโห่ร้องก้องกึกพระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยธรรมวิธ มีทานบารมีเป็นต้น ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
อาฬวกยักษ์ผู้กระด้างปราศจากความอดทน ดุร้าย สู้รบกับพระพุทธเจ้าอย่างทรหดยิ่งกว่ามารตลอดราตรีพระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยขันติวิธีที่ทรงฝึกฝนมาดี ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
พญาช้างชื่อนาฬาคิริงตกมันดุร้ายยิ่งนัก ประดุจไฟป่าจักราวุธและสายฟ้า พระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยวิธีรดด้วยน้ำคือเมตตา ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้นขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
โจรองคุลิมาลถือดาบเงื้อง่าวิ่งไล่ฆ่าพระพุทธองค์สิ้นระยะทาง โยชน์ พระจอมมุนีทรงบันดาลอิทธิฤทธิ์ทางใจเอาชนะได้ราบคาบ ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
กัตวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
นางจิญจมาณวิกา เอาไม้กลมๆ มาผูกท้อง ทำอาการประหนึ่งว่ามีครรภ์ ใส่ร้ายพระพุทธเจ้าท่ามกลางฝูงชน พระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยวิธีสงบระงับพระหฤทัยอันงดงาม ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
สัจจกนิครนถ์ผู้ถือตัวว่าฉลาด เป็นนักโต้วาทะชั้นยอด สละเสียซึ่งสัจจะ ตั้งใจมาได้วาทะหักล้างพระพุทธองค์ เป็นคนมืดบอดยิ่งนัก พระจอมมุนีผู้สว่างจ้าด้วยแสงปัญญาทรงเอาชนะได้ ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
พญานาคชื่อนันโทปนันทะ ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก พระจอมมุนีทรงมีพุทธบัญชาให้พระโมคคัลลานะพุทธโอรส ไปปราบด้วยวิธีแสดงฤทธิ์ที่เหนือกว่า ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พ๎รัห๎มัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ ฯ
คำแปล
พรหมชื่อพกะ ถือตัวว่ามีความบริสุทธิ์ รุ่งเรืองและมีฤทธิ์ ยึดมั่นในความเห็นผิด ดุจมีมือถูกอสรพิษขบเอา พระจอมมุนีทรงเอาชนะได้ด้วยญาณ ด้วยเดชแห่งชัยชนะนั้น ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิต๎วานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ ฯ
คำแปล
คนมีปัญญาสวดพุทธชัยมงคล คาถาทั้ง ๘ นี้เป็นประจำ โดยไม่เกียจคร้าน พึงขจัดอุปัทวันตรายทั้งหลายได้ บรรลุถึงซึ่งพระนิพพานอันเป็นสุข
บทสวดมหาการุณิโก
มะหาการุณิโกนาโถ หิตายะสัพพะปาณินัง ปูเรตวาปาระมี สัพพาปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะสัจจะวัชเชนะโหตุเมชะยะมังคะลังฯ
ชะยันโตโพธิยามูเล สักยานังนันทิวัฑฒะโน เอวังตะวังวิชะโยโหหิ ชะยัสสุชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเสปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโตปะโมทะติฯ
สุนักขัตตังสุมังคะลัง สุปะภาตังสุหุฏฐิตัง สุขะโณสุมุหุตโต จะสุยิฏฐังพรัหมะจาริสุ ปะทักขิณังายะกัมมังวาจากัมมัง ปะทักขิณังปะทักขิณัง มะโนกัมมังปะณิธีเม ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตตะวานะละภันตัตเถปะทักขิเณฯ
ภะวะตุสัพพะมังคะลังรักขันตุสัพพะเทวะตาสัพพะพุทธานุภาเวนะสะทาโสตถีภะวันตุเม
ภะวะตุสัพพะมังคะลังรักขันตุสัพพะเทวะตาสัพพะธัมมานุภาเวน สะทาโสตถีภะวันตุเม
ภะวะตุสัพพะมังคะลังรักขันตุสัพพะเทวะตาสัพพะสังฆานุภาเวนะสะทาโสตถีภะวันตุเม
คำแปล
ผู้เป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย ประกอบแล้วด้วยพระมหากรุณา ยังบารมีทั้งหลายทั้งปวงให้เต็มเพื่อประโยชน์แก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดมแล้ว ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่ข้าพเจ้า
ขอข้าพเจ้า จงมีชัยชนะ เหมือนพระจอมมุนี ทรงชนะมาร ที่โคนโพธิพฤกษ์ ถึงความเป็นเลิศ ในสรรพพุทธาภิเษก ทรงปราโมทย์อยู่บนอปราชิตบัลลังก์อันสูง เป็นจอมมหาปฐพี ทรงเพิ่มพูนความยินดีแก่เหล่าประยูรญาติศากยะวงศ์ ฉะนั้นเทอญ
เวลาที่สัตว์ ประพฤติชอบ ชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี และขณะดี ครู่ดี บูชาดีแล้วในพรหมจารีบุคคลทั้งหลาย กายกรรมเป็นประทักษิณ วจีกรรม เป็นประทักษิณ มโนกรรมเป็นประทักษิณ ความปรารถนาของข้าพเจ้า เป็นประทักษิณ สัตว์ทั้งหลายทำกรรมอันเป็นประทักษิณแล้ว ย่อมได้ประโยชน์ทั้งหลาย อันเป็นประทักษิณ
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
ตอบลบ